1. หงุดหงิดกับเรื่องเล็ก ๆ จนบานปลาย

เคยโมโหเพียงเพราะใครสักคนตอบแชทช้า แล้วสุดท้ายพาลกลายเป็นการทะเลาะใหญ่กับคนใกล้ตัว ทั้งที่จริง ๆ ปัญหาเล็กนิดเดียว วิธีนี้ทำให้เห็นว่าเราไม่ได้จัดการอารมณ์ แต่ปล่อยให้อารมณ์จัดการเรา

2. กังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิด

เคยเครียดทั้งคืนกับการประชุมวันพรุ่งนี้ คิดไปเองว่าจะโดนตำหนิ แต่เมื่อถึงจริง ๆ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย นี่คือตัวอย่างชัดว่า “ความกังวล” มักมาจากการตีความในหัว ซึ่งไม่ใช่ความจริง

3. จัดการกับคำพูดแรง ๆ ไม่ได้

เคยเสียใจทั้งสัปดาห์เพียงเพราะหัวหน้าพูดว่า “งานยังไม่ดี” ทั้งที่มันคือการติชมงาน ไม่ใช่การตัดสินคุณค่าในตัวเรา แต่เพราะเราแยก “งาน” ออกจาก “ตัวตน” ไม่ได้ จึงเจ็บเกินจริง

4. ไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกอะไรแน่

เคยพูดแค่ว่า “ไม่โอเค” ทุกครั้งที่ใครถาม ทั้งที่จริง ๆ คือโกรธ + น้อยใจ + ผิดหวัง แต่เพราะระบุอารมณ์ไม่ได้ จึงแก้ปัญหาไม่ตรงจุด และทำให้คนรอบตัวไม่เข้าใจ

5. รับพลังลบจากคนอื่นมาง่ายเกินไป

เคยทำงานทั้งวันอย่างมีความสุข แต่พอเพื่อนร่วมงานบ่นเรื่องเจ้านาย กลับหงุดหงิดไปทั้งวัน นี่คือการปล่อยให้พลังงานรอบตัวมากำหนดอารมณ์เรา แทนที่จะควบคุมมันเอง

6. ยึดติดกับแผนที่ไม่เป็นไปตามคาด

เคยเตรียมงานไว้อย่างดี แต่พอเจอสถานการณ์จริงที่เปลี่ยนกะทันหัน กลับเครียดจนทำอะไรไม่ออก ทั้งที่คนอื่นพลิกแพลงแก้ปัญหาได้ เพราะความยืดหยุ่นต่ำเป็นอุปสรรคใหญ่ของ EQ

7. ทำให้ความสัมพันธ์พังโดยไม่รู้ตัว

เคยสงสัยว่าทำไมเพื่อนหรือคนรักถอยห่าง ทั้งที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิดร้ายแรง คำตอบคือ การหงุดหงิด กังวล และอ่อนไหวเกินไป ทำให้คนรอบตัวรู้สึก “อยู่ใกล้แล้วเหนื่อย”